แกเร็ธ เบล เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 1989 ณ เมืองคาร์ดิฟฟ์ ในประเทศเวลส์(สหราชอาณาจักร) ช่วงชีวิตวันเด็กก็ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติเท่านั้น เนื่องจากฐานนะทางบ้านปานกลาง ซึ่งปู่คือ คริส เพคส์ อดีตนักเตะของสโมสร คาร์ดิฟฟ์ อีกด้วย ทั้งนี้พรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวเขาได้ฉายแววออกมาในโรงเรียนไฮสคูลกีฬาธรรมดาที่เรียนอยู่ เช่น กีฬารักบี้ ฮ๊อกกี้ รวมไปถึงกีฑาทุกชนิด ครูพละเห็นในความสามารถนี้จึงแนะนำให้เขาเล่นฟุตบอลอย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งก็สามารถทำได้ดีมาก จนเข้าตาแมวมองเข้าจึงให้ไปลงเล่นกับอะคาเดมี่ดู ในตอนแรกเขาก็ลองไปแบบไม่ได้จริงจังอะไร และกลับมาเรียนในไฮลสคูลต่อ แต่ในระยะอายุนั้นเขาเปลี่ยนจากการดูการ์ตูนมาเป็นการเล่นฟุตบอลแทน อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์ของโรงเรียนในรายการ “คาร์ดิฟฟ์ แอนด์ เวล ซีเนียร์ คัพ” ได้สำเร็จ
พออายุได้ 17 ปี เขาได้ตกลงเข้าเทรนด์อย่างจริงจังกับ เซาแธมป์ตัน ที่เมืองบาธ ได้พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เพราะเป็นผู้ที่ยิงฟรีคิกของทีม ทำให้แฟนบอลของ เซาแธมป์ตัน ต่างประทับใจในตัวเขาไปต่างๆ นานา แต่เรื่องโชคร้ายก็เกิดขึ้น เพราะว่าเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่สามารถลงแข่งขันต่อไปในเกมสุดท้ายของการแข่งขันระหว่าง ดาร์บี้ กับ เซาแธมป์ตัน ในเกมเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพ สรุปแล้ว เบล ลงสนามให้กับ เซาแธมป์ตัน ทั้งหมด 45 นัด และทำประตูไปทั้งหมด 5 ลูกเท่านั้น จากในสถิติการติดตาม ผลบอลสด
ชีวิตของ แกเร็ธ เบล ในทัพ ไก่เดือยทอง
หลังจากนั้นในปี 2007 เขาได้ย้ายไปยังทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ค่าตัวประมาณ 5 ล้านปอนด์ หรือเท่ากับ 300 ล้านบาทไทย ซึ่งได้ต่อรองกับ สเปอร์ ว่าต้องจ่ายราคาเพิ่มถ้าหาก เบล สามารถช่วยให้ สเปอร์ ประสบความสำเร็จ ซึ่งก็สามารถทำได้จริงๆ และได้เงินเพิ่มราวๆ 10 ล้านปอนด์ ในนัดแรกที่ลงสนามในนาม สเปอร์ ครั้งแรกเป็นนัดอุ่นเครื่องระหว่าง สเปอร์ และ เซนต์ แพตทริคส์ แอตแลติก ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัว เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ผลงานที่เขาทำให้ สเปอร์ ในอายุเพียง 18 ปี ได้พังประตูให้สโมสรในแมตช์แรกที่ได้เสมอ 3-3 กับ ฟูแล่ม หลังจากนั้นก็ได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด จากการทำสกอร์ฟรีคิกในรายการดาร์บี้ แห่งลอนดอนเหนือกับ อาร์เซน่อล และโชว์ผลงานอีกนั่นก็คือ การทำประตูในรายการลีก คัพ ที่ได้เจอเข้ากับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ซึ่งในตอนนั้นได้เป็นขวัญใจคนใหม่ ของชาว สเปอร์ ได้อย่างรวดเร็ว ในการลงสนามเพียง 4 นัดแต่สามารถทำประตูได้ถึง 3 ลูก และเมื่อช่วงท้ายปี 2007 ก็เจอปัญหายิ่งใหญ่คือ การบาดเจ็บที่เท้าขวาอย่างรุนแรง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนานนับหลายเดือน จนถึงช่วงกลางปี 2008 เขาได้ตกลงเซ็นสัญญาต่อในสโมสร สเปอร์ อีก 4 ปี ถึงแม้ว่าจะทำผลงานที่น่าประทับใจในช่วงเวลาแรก แต่หลังจากการพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นของเขาเริ่มลดน้อย ถอยลง
ในการลงสนาม 24 นัดของ เบล ไม่สามารถนำทีมให้ชนะได้เลย ทำให้ถูกด่าทอว่าเป็น “ตัวซวย” เมื่อใดที่ได้ลงสนาม สเปอร์ ไม่สามารถชนะได้เลย ซึ่งกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นก็กินระยะเวลาไปแล้วถึง 2 ปี ในการคว้าชัยชนะเป็นนัดแรก และในเกมดังกล่าว ถูกเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 85 ตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้ทำการฝึกฝน และพัฒนาตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อลบคำสบประมาทของผู้คนที่ว่าเป็นตัวซวย ซึ่งในปี 2010-2011 ได้เริ่มต้นปีได้อย่างสวยงามในการเก็บประตูคนเดียวถึง 2 ลูก ในเกมที่แข่งขันกับ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 ซึ่งสามารถนำชนะขึ้นมาได้ หลังจากนั้น 4 วัน ก็ยังแอสต์ซิสทั้ง 4 ลูกให้กับ สเปอร์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งแข่งกับ บอยส์ เบิร์น จากสวิตเซอร์แลนด์ สกอร์คือ 4-1 และในปี 2013 ได้ตกลงย้ายทีมไปยังสโมสรฟุตบอล เรอัล มาดริด ในค่าตัว 85.3 ล้านปอนด์ ซึ่งสามารถทำลายสถิติโลกของ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ได้สำเร็จ
